ความสัมพันธ์ที่เพิ่งเริ่ม ควรปฏิบัติอย่างไร

1. อย่าต้องการมากเกินไป คนเราลองรักกันแล้วก็ควรให้อิสระแก่กันด้วย ไม่ใช่ว่าพอตกลงเป็นแฟนปุ๊บก็ห้ามไม่ให้ไปสุงสิงกะใครปั๊บ แหม...ทำอย่างกะชีวิตรักเป็นชีวิตคุกก็ไม่ปาน แล้วอย่างงี้จะไปกันไหวรื้อ สู้บางเวลาให้แต่ละฝ่ายมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้าง และบางคราก็หวานแหววกับแฟนมั่ง หากแบ่งสันปันส่วนเวลาส่วนตัวกับส่วนรวมได้อย่างนี้ ความรักก็ยังอยู่กะคนทั้งคู่ รับรองว่าแฟนไม่หนีไปไหนหรอก การเกาะติดกันเป็นปาท่องโก๋ของคู่รัก ความจริงก็ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะคนเราลองพิศวาสบาดอุรากันแล้วไซร้ ก็ย่อมอยากอยู่ด้วยกันเป็นธรรมดาโลกน่ะโยม แต่ก็อีกนั่นแหละ ที่ไม่ช้าก็เร็ว 'การอยู่ติดกันเป็นตังเม' ก็อาจทำให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเสียโอกาสในการทำสิ่งต่างๆ ที่ตัวเองอยากทำหรือชอบทำลำพังคนเดียวก็ได้นะ เช่น อดดูหนังเรื่องที่คุณชอบเพราะแฟนไม่ชอบด้วยจึงไม่ยอมไปเงี้ย เพราะฉะนั้น จงอย่าเรียกร้องความต้องการที่จะอยู่ด้วยกันมากเกินไปนะจ๊ะ เดี๋ยวเบื่อเร็วไม่รู้ด้วย!
2. การทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ร่วมกัน ย่อมแสดงถึงความเป็นคู่ ไม่ว่าจะเป็นการไปทานอาหารในโอกาสพิเศษที่ภัตตาคารโปรด หรือแค่นั่งทานข้าวโพดคั่วขณะดูทีวีอยู่ที่บ้านด้วยกัน กิจกรรมที่เห็นว่าเล็กน้อยพวกนี้กลับมีพลังมหาศาลที่ช่วยสร้างความผูกพัน ซึ่งเชื่อดิว่าอย่างอื่นก็ไม่สามารถทดแทนได้ วิธีการของคุณๆ อาจไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่อลังการเสมอไป แค่อาบน้ำด้วยกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือชวนกันหนุงหนิงไปออกกำลังกายทุกวันศุกร์หลังเลิกงาน เท่าเนี้ยก็รักษาความผูกพันกันไว้ได้แล้ว
3. อย่าคิดว่าความสัมพันธ์คราวนี้ 'เป็นของตาย' อย่าให้ความรู้สึกเป็นกันเองพัฒนาไปสู่ 'การปล่อยตัวตามสบายจนเกินไป' เช่น แม้ทั้งคู่จะโทรศัพท์หากันได้ทุกเมื่อที่อยากจะฝอยแหลกให้อีกฝ่ายฟัง หรือสนิทซะจนต่างฝ่ายต่างช่วยซักกางเกงในให้กันและกันได้ก็เหอะ คุณก็ไม่ควรปล่อยให้ความรู้สึกเป็นกันเอง กลายเป็นจะทำไงต่อดาร์ลิ่งก็ได้โดยปราศจากความเกรงใจ หรือเลิกพูดคำหวานๆ และหยุดที่จะให้กำลังใจกันอีกต่อไปเพราะคิดตื้นๆ ว่าไม่จำเป็น แต่จริงๆแล้วยังจำเป็นนะ
4. ยังจูบประทับใจกันอยู่เลย การจูบแบบดื่มด่ำฉ่ำหวาน เป็นการช่วยให้ไฟรักของคุณโชติช่วงชัชวาลในความสัมพันธ์ของคุณ ด้วยเหตุที่ว่า การจูบเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับความรักและความโรมานซ์ ฉะนั้น จงยุติการจุ๊บปากชนปากแบบนกจิกซะ แล้วเปลี่ยนเป็นจุมพิตแบบดูดดื่มมิรู้ลืมดีกว่า รับรองจะเรียกคะแนนนิยมจากหวานใจได้อีกเพียบ
5. ตระหนักว่า การทะเลาะนั้นมีไว้เพื่อแก้ปัญหา ไม่ใช่เพื่อเอาชนะ การทะเลาะเบาะแว้งเป็นสัจธรรมของการมีชีวิตคู่ ฉะนั้น ไม่ต้องกระต่ายตื่นตูมจนเกินไป หากว่าคู่รักจะมีปากเสียงกันเพียงเล็กน้อยแล้วคิดว่า ตายแล้ว สงสัยจะเป็นลางร้ายของชีวิตคู่แล้วไหมล่ะ...ขืนคิดแบบนี้ก็มองโลกในแง่ร้าย เกินไปนะเจ๊ รู้เปล่าว่า การทะเลาะกันบางครั้งกลับทำให้คู่รักใกล้ชิดกันเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ ไม่ใช่มีแล้วจะทำให้แตกแยกเสมอไปก็หาไม่ แต่การทะเลาะกันก็มีเคล็ดลับตรงที่ควรมุ่งเน้นเพื่อความก้าวหน้า หรือปรับปรุง พัฒนาให้คู่ของเราดีขึ้น ไม่ใช่เพียงต้องการเอาชนะเพื่อความสะใจ เดี๋ยวเหอะ คงได้กลับไปเป็นโสดอีกหรอก
6. อย่าแค่พูด แต่ลงมือทำ คำพูดอาจดูสวยหรู แต่คำพูดจะหมดความหมายถ้าคุณทำไม่ได้ดังที่พูด เพราะฉะนั้น แทนที่จะโม้ว่าคนที่คุณรักมีความหมายสำหรับคุณแค่ไหน คุณควรลงมือแสดงความรัก ความอ่อนโยนและความยอมรับนับถือในตัวสุดที่รักออกมาเลยไม่ดีกว่าหรือ
7. อย่ากดดันดาร์ลิ่งมากไป การผลักให้แฟนทำบางสิ่งที่คุณต้องการ เช่น เรื่องบนเตียงหรือเซ็กซ์ๆ เอ็กซ์ๆ มันเป็นการบังคับขืนใจกันเกินไปรึเปล่า ต้องคิดถึงใจเขาใจเราด้วยน้า การกดดันสุดที่รักให้ทำในสิ่งที่ไม่พร้อม เท่ากับไปฝืนความรู้สึก แล้วความสัมพันธ์จะลงเอยกันด้วยดีได้ไง ทางที่ดีควรปล่อยให้อะไรๆเป็นไปตามธรรมชาติดีกว่ามั้ย

8. อย่าพูดว่า 'รักเธอ' ถ้าไม่รู้สึกตามนั้นจริงๆ เพราะมันเสียความรู้สึกน่ะเซ่ แถมยังบาปอีกต่างหาก ฉะนั้น ถ้าไม่รักก็อย่าลวงให้ช้ำ ยังไม่อยากเสียตังค์ซื้อน้ำใบบัวบก แก้ช้ำใน ทราบไว้ซะด้วย
9. อย่าให้ของขวัญตามอำเภอใจคนให้ การเอาใจแฟนด้วยการรีบให้ของขวัญ แหงล่ะ ไม่ว่าใครย่อมชอบด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งถ้าคุณอยากให้อะไรแก่หวานใจก็ให้ไปเถอะ แต่มั่นใจหน่อยนะว่าได้ให้ของที่แฟนชอบด้วย ไม่ใช่ให้อะไรก็ไม่รู้ ซึ่งหล่อนไม่มีวันแกะมันออกมาใช้ ก็อย่าให้ดีกว่า นอกจากจะเปลืองแล้วยังทำให้รู้สึกไม่มีความหมายอะไรด้วย

10. อาศัยความลึกลับชวนให้น่าค้นหา ทำตัวให้มีความลึกลับซะบ้างบางครั้งก็ดีเหมือนกัน การจะมีความสัมพันธ์กันอย่างยาวนานได้จะต้องมีสัมผัสแห่งการไม่รู้เป็นศิลปะในการเก็บงำความลับเพื่อให้แฟนได้คาดเดาเอาไว้บ้าง เผื่อจะจูงใจให้แฟนอยากค้นหาคุณไง จำไว้เหอะว่า ความไม่เด่นชัดจะยิ่งปลุกปล้ำ เอ๊ย ปลุกปั้นคุณให้น่าสนใจมากกว่าแบไต๋ให้อีกฝ่ายรู้ใจคุณไปซะหมด

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ติชม


ต้องการให้คะแนนบทความนี้่ ?

สร้างโดย :


napart

สถานะ : ผู้ใช้ทั่วไป
การโรงแรมและการท่องเที่ยว